เคยสงสัยกันบ้างไหมคะ? ว่าทำไมผิวหน้าของเราถึงได้มีรอยคล้ำเสีย เหี่ยวย่น แก่ก่อนวัย ทั้งๆที่มีอายุแค่เลข 3 ต้นๆเองเท่านั้น! วันนี้ Herb&Her มีวิธีแก้ปัญหาผิวเหี่ยวย่นดีๆโดยไม่ต้องพึ่งการฉีดฟิลเลอร์ หรือการศัลยกรรมฉีดซิลิโคนที่เสี่ยงอันตรายอีกด้วย
วิธีทำให้ผิวเรียบตึง ไร้รอยเหี่ยวอย่างยาวนานขึ้น
1. หลีกเลี่ยงแสงแดด
แสงแดด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่นแถมยังทำให้ผิวคล้ำมีรอยฝ้า เนื่องจากแสงแดดมีรังสี UVA/UVB (UVA = ทำให้ผิวเหี่ยวย่น, UVB = ทำให้ผิวคล้ำเสียสะสมจนเป็นฝ้า) วิธีที่จะหลีกเลี่ยงรอยเหี่ยวย่น คือทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ ก่อนออกจากบ้าน 30 นาที และหลบเลี่ยงแสงแดดในเวลา 10.00-16.00 น. ด้วยการสวมหมวกปีกกว้างหรือกางร่มทุกครั้งที่ออกกลางแจ้ง
(ลดความเสี่ยงหน้าเหี่ยวย่น ด้วยการเลิกสูบบุหรี่หรือสูดดมบุหรี่จากคนรอบข้าง)
2. ไม่สูบบุหรี่
การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน ที่เป็นโครงสร้างของผิวหนังถูกทำลาย ทำให้เกิดผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอยได้มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ และยังทำให้ริมฝีปากคล้ำ ฟันดำ มีคราบบุหรี่ และมีกลิ่นปาก ถ้าไม่อยากมีริ้วรอยหรือมีกลิ่นปาก ก็ควรหยุดสูบบุหรี่ได้แล้ว
3. ลดการดื่มแอลกอฮอล
การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ปัสสาวะบ่อยจึงส่งผลให้ผิวแห้ง ร่างกายสูญเสียน้ำ ซึ่งทำให้ผิวมีริ้วรอย หน้าเหี่ยว แก่ไว นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังทำให้ร่างกายขาดวิตามินบี ซึ่งการขาดวิตามินบีจะทำให้ผิวหนังแห้ง เหี่ยว เป็นสิว คันตามผิวหนัง ผิวแห้งแตกลายได้
(การออกกำลังกายเบาๆเพียงวันละ 3 นาที ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้น)
4. ออกกำลังกายให้ได้ 30 นาที
การออกกำลังกาย เพียงวันละ 30 นาที จะช่วยกระตุ้นให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนได้ดี และยังกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลืองให้ขับของเสียออกไป ผิวจึงดูสดใส เปล่งปลั่ง อิลาสตินทำงานดีขึ้น ผิวจึงเกิดริ้วรอยช้าขึ้นนั่นเอง (แต่การออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนความเครียดออกมา ทำให้ผิวดูไม่สดชื่นตามไปด้วย)
5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับ จะช่วยให้ร่างกายจะซ่อมแซมผิวในขณะที่เรานอนหลับพักผ่อน หากไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอจึงทำให้ตื่นมาแล้วผิวดูโทรม และไม่มีน้ำมีนวลนั่นเอง ในหนึ่งคืนควรนอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมง รับรองว่าตื่นมาตอนเช้าจะสดใสไม่งัวเงีย และผิวก็ดูสดชื่น เมื่อทำเป็นประจำริ้วรอยก็จะเลือนลงด้วยนะคะ (พยายามนอนหงาย อย่านอนตะแคงหรือคว่ำหน้าเพราะจะทำให้หน้ายับ มีริ้วรอย)
(หลังจากดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร ใน 4 เดือน ผิวหน้าดีขึ้น สังเกตความแตกต่างได้เลยค่ะ)
6. ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว
การดื่มน้ำเปล่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายและผิวพรรณ เพราะช่วยทำให้เซลล์ในร่างกายอุ้มน้ำ รวมไปถึงผิวก็จะชุ่มชื่นขึ้น ลดเลือนริ้วรอยได้ดีด้วย ฉะนั้นเราจึงควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 8-10 แก้วในหนึ่งวัน หรือดื่มให้ได้วันละ 3 ลิตรด้วยการจิบตลอดวันจะดีที่สุด (เคล็ดลับผิวสวย : บูสท์ความสดชื่นและเพิ่มคุณประโยชน์มากขึ้น ด้วยการบีบน้ำมะนาวลงไปหนึ่งซีก จะช่วยเพิ่มวิตามินซี และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ให้แก่ผิวพรรณ)
7. ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนนอน
การทำความสะอาดผิวหน้าก่อนนอน เป็นกิจวัตรที่คุณจะละเลยไม่ได้เด็ดขาด! หากว่าคุณต้องแต่งหน้าเป็นประจำทุกวัน ก็คือการล้างหน้าให้สะอาดหมดจดทุกครั้งก่อนเข้านอน เพื่อลดสารเคมีตกค้าง และลดริ้วรอยรวมถึงฝ้าได้ดี จากนั้นตามด้วยครีมบำรุงเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวขณะนอนหลับ
(ทานอาหารที่ย่อยง่าย อย่างเนื้อปลา-ผัก-ผลไม้ จะช่วยให้เผาผลาญและดูดซึมซ่อมแซมผิวดีขึ้น)
8. เลือกทานอาหารที่ดีต่อผิว
เมนูเนื้อปลา ผักใบเขียว และผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น ปลาแซลมอน คะน้า แครอท แอปเปิล ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ ฯลฯ จะทำให้คุณได้ทั้งโปรตีนที่มีประโชน์ วิตามิน และสารแอนตี้ออกซิแดนท์จากผักและผลไม้ อันจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นตามธรรมชาติ จึงลดความหมองคล้ำ และหยาบกร้านหรือริ้วรอยของผิวได้ รวมทั้งช่วยลดปัญหาสิวด้วย
ทั้ง 8 วิธีเหล่านี้ จะช่วยให้ผิวพรรณที่มีรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย หรือมีผิวแห้งแต่งหน้าติดยาก กลับมามีผิวที่ชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ไร้ริ้วรอย และลดเลือนรอยฝ้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ควรควบคู่ไปกับการเลือกใช้ชุดเซรั่มกระชับผิวหน้า Herb&Her เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไร้ริ้วรอย และรอยฝ้าได้ด้วยนะคะ