ฝ้าจางลงได้ง่ายๆ ด้วยการดื่มน้ำอย่างถูกวิธี

"การรักษาฝ้ามีหลายหลายวิธี ทั้งทาง เลเซอร์ ใช้สมุนไพร ใช้ครีม และวิธีธรรมชาติ แต่ใครจะรู้บ้างว่าการรักษาฝ้าที่ทั้งทำได้ง่ายๆและทำได้ทุกวันก็คือการดื่มน้ำสะอาด แต่การดื่มน้ำจะช่วยรักษาฝ้าได้อย่างไร ตามมาเลยค่ะ"

ความสำคัญของการดื่มน้ำ

ในร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบ 2 ใน 3 ของน้ำหนักตัว ดังนั้นน้ำจึงมีความสำคัญต่อระบบภายในร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายคนเราสามารถขาดอาหารได้หลายสัปดาห์ แต่ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำเกิน 3-5 วันได้ เนื่องจากอวัยวะทุกส่วนในร่างกายประกอบไปด้วยเซลล์และของเหลว น้ำจึงสำคัญต่อระบบภายในร่างกายและภายนอกนั่นเอง

“ควรค่อยๆดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว ตลอดวัน เพื่อสุขภาพชีวิตและผิวพรรณที่ดีขึ้น”

ดื่มน้ำช่วยรักษาฝ้าได้อย่างไร

รอยฝ้า เกิดจากสารพิษภายในร่างกายเป็นตัวการทำลายตัวต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ผิวจึงแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และเกิดการสร้างเม็ดสีผิวเมลานิน ทำให้เป็นรอยฝ้าได้

ดังนั้น.. การดื่มน้ำ จึงมีส่วนช่วยในการขับถ่ายสารพิษภายในร่างกาย ทั้งทางรูปแบบเหงื่อ, ปัสสาวะ หรืออุจจาระ ทำให้ระบบภายในร่างกายดีขึ้น ส่งผลถึงผิวพรรณ โดยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ผิว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย และช่วยลดเลือนรอยฝ้าได้อย่างดี

"ผิวหน้าดีขึ้น ริ้วรอย ฝ้าจางลงเมื่อดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร ภายในเวลา 4 เดือน"

วิธีดื่มน้ำที่ถูกต้องเพื่อรักษาฝ้า

ช่วงเช้า : ดื่มน้ำอุ่นหลังจากตื่นนอน 4 แก้ว

ควรดื่มน้ำอุ่นช้าๆ 4 แก้ว ในตอนเช้า เพราะน้ำอุ่นจะมีอุณหภูมิที่เท่ากับภายในร่างกายไม่ทำให้การไหลเวียของเลือดเสียสมดุลย์ และช่วยล้างสารพิษในไต

ทั้งนี้ที่ควรดื่มน้ำอุ่นหลังจากตื่นนอนทันที เนื่องจากน้ำลายบูดในตอนเช้ามีเชื้อจุลินทรีย์ที่สามารถทำล้ายเชื้อแบคทีเรียตัวอื่นๆที่อยู่ภายในร่ายกาย จึงช่วยขับสารพิษผ่านทางปัสสาวะ และอุจจาระได้เป็นอย่างดี

มื้ออาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น : ดื่มน้ำอุณหภูมิปกติ 1 แก้ว ก่อน-หลัง 3 มื้อ

การดื่มน้ำช่วงมื้ออาหารแต่ละวัน ควรดื่มน้ำในอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อน ไม่เย็นเกินไป โดยการดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหารทุกมื้อ 1 แก้ว และดื่มน้ำหลังรับประทานอาหารเสร็จแล้วอีก 1 แก้ว วิธีนี้มีประโยชน์ต่อลำไส้ ทำให้ขับถ่ายดี ทำให้ผิวชุ่มชื้น คลายความร้อน และช่วยลำเรียงอาหารได้อย่างสะดวกมากขึ้น

ระหว่างวัน : ดื่มน้ำ 1 แก้ว ระหว่างวัน 10.00 น. / 14.00 น. / 16.00 น.

ในระหว่างวัน ควรดื่มน้ำอุณหภูมิปกติครั้งละ 1 แก้ว ในเวลา 10.00 น. / 14.00 น. / 16.00 น. เพื่อความสดชื่น สมองปรอดโปร่ง กระปรี้กระเปร่าระหว่างวัน นอกจากความสดชื่นภายนอกแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการขับสารพิษภายในร่างกาย ทำให้ขับถ่ายดีขึ้น ช่วยให้ผิวสดชื่น เปล่งปลั่ง ไม่แห้งกร้าน

ก่อนนอน : ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว

ขั้นตอนสุดท้ายของการดื่มน้ำใน 1 วัน คือดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว ก่อนนอน เพื่อช่วยบำบัดโรค ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดความดันโลหิต ทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ช่วยลดการเสียดทานของผิว ทำให้ริ้วรอยลดลง แถมช่วยให้รอยฝ้า กระ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำบนใบหน้าจางลงได้เป็นอย่างดี

คำเตือน การดื่มน้ำควรค่อยๆดื่มไปตลอดวัน ไม่ควรดื่มรวบยอดในครั้งเดียว เพราะการดื่มน้ำปริมาณมากๆในครั้งเดียวอาจทำให้เกิดอาการน้ำเป็นพิษ เนื่องจากเลือดเจือจาง และอาจทำให้เป็นตะคริว หรือกล้ามเนื้อเกร็งได้

ถ้าเราดื่มน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวัน ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้ท้องผูก ไม่เป็นโรคไต ความดัน และไม่ทำให้ผิวแห้งเสีย ต่อต้านการเกิดริ้วรอย และลดเลือนรอยฝ้าได้อย่างดี นอกจากนี้ควรดื่มน้ำควบคู่กับการใช้ชุดรักษาฝ้าสูตรสมุนไพร เพื่อช่วยให้รอยฝ้าลดเลือนลงได้เป็นอย่างดี