เม็ดสีเมลานินเราอาจจะเคยได้ยินมาบ่อยแล้วว่า เป็นเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้า แต่ก็ใช่ว่าเม็ดสีเมลานินจะไม่มีประโยชน์ต่อผิวหนังเราเลย ในทางกลับกันยังช่วยปกป้องผิวไม่ให้เป็นอันตรายจากแสงแดดอีกด้วย แต่เราจะมีวิธีดูแลผิวหน้าหรือรักษาฝ้าอย่างไร เพื่อไม่ให้เม็ดสีเมลานินถูกผลิตออกมามากเกินไป แต่ก็ไม่น้อยเกินไปจนทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหนังเราได้ วันนี้เรามาดูกัน
ประโยชน์ของเม็ดสีเมลานิน
เม็ดสีเมลานินจะช่วยป้องกันผิวไม่ให้โดนทำร้ายจากรังสียูวี โดยทำหน้าที่ดังนี้
ดังนั้นเม็ดสีเมลานินจึงเปรียบเสมือนแผ่นกรองแสงสำหรับผิวหนังเรา ไม่ให้แสงแดดเข้าสู่ผิวมากเกินไป แต่ถ้าผิวหนังโดนแสงแดดมากๆ ก็จะผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากเพื่อป้องกันผิว แต่ถ้าผลิตมามากเกินไปก็จะเกิดเป็นรอยหมองคล้ำและฝ้าขึ้นมาได้ ทีนี้ต้องรักษาฝ้ากันยาวนานเลยหละค่ะ
เม็ดสีเมลานินน้อยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง
จากที่เรารู้กันไปแล้วว่าเม็ดสีเมลานินช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด แต่มีคุณผู้หญิงหลายคนที่อยากรักษาฝ้าให้เห็นผลเร็ว และอยากมีผิวที่ขาวใส และพยายามหาวิธีต่างๆที่ทำให้ผิวขาว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ครีมพวก Whitening ที่อาจมีส่วนผสมของสารอันตราย หรือฉีดผิวขาว เพื่อยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินตัวการของผิวหมองคล้ำ คุณทราบมั้ยคะว่าพฤติกรรมเหล่านี้เสี่ยงและเป็นอันตรายต่อผิวหนังมาก เพราะถ้าผิวเราขาวจนไม่มีเม็ดสีเมลานินแล้ว รังสียูวีในแสงแดดจะสามารถเข้าไปทำร้ายผิวได้โดยตรง ทีนี้คุณผิวคุณอาจได้รับอันตรายจนเกิดเป็นมะเร็งผิวหนังได้เลย ดังนั้นอย่าสนใจการการมีผิวขาวหรือรักษาฝ้าให้หายไวมากเกินไป จนมองข้ามความปลอดภัยกันนะคะ
วิธีป้องกันการสร้างเม็ดสีเมลานินมากเกินไปจนเกิดฝ้า
วีธีที่ดีที่สุดคือการทาครีมกันแดดค่ะ เพราะช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้โดยตรง ผิวไม่ต้องสัมผัสกับแสงแดด เพราะมีเกราะป้องกันผิวอย่างครีมกันแดดแทน จึงทำให้เม็ดสีเมลินินไม่ถูกผลิตออกมามากเกินไปจนทำให้เกิดฝ้า ถือว่าเป็นวิธีที่ป้องกันและรักษาฝ้าได้ตรงจุดที่สุดแล้วค่ะ
เห็นมั้ยคะว่าเม็ดสีเมลานินไม่ได้เป็นสิ่งไม่ดีที่ทำให้ผิวหนังเราเกิดฝ้าไม่สวยสดใส แสงแดดต่างหากที่เป็นตัวการสำคัญ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกวัน เพื่อป้องกันผิวโดนทำร้ายจนเกิดความหมองคล้ำและฝ้าขึ้นมานั่นเอง ถ้าคุณไม่อย่างเสียเวลาในการรักษาฝ้า อย่าลืมทาครีมกันแดดเป็นประจำนะคะ