เมื่อเลิกใช้ครีมรักษาฝ้า แล้วกลับมาดำอีกครั้ง ต้องทำอย่างไรดี ?
ใครที่เคยรักษาหน้าด้วยครีมรักษาฝ้า แล้วเลิกใช้ครีมรักษาฝ้าไปแล้ว แต่หน้ากลับมาดำอีก วันนี้เรามีวิธีแก้ปัญหาหน้าดำหลังจากเลิกใช้ครีมรักษาฝ้ามาฝากค่ะ
ทำไมเลิกใช้ครีมรักษาฝ้า แล้วหน้ากลับมาดำกว่าเดิม?
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าฝ้ามักเกิดจากแสงแดด ที่ปล่อยรังสี UVA / UVB โดยเฉพาะ “รังสี UVA” ซึ่งรังสียูวีเอจะมีช่วงคลื่นที่ยาวกว่ารังสียูวีบี จึงสามารถทำลายผิวได้ ทำให้เมื่อตากแดดนาน ๆ แล้วผิวถึงคล้ำเสียได้
และนอกจากแสงแดดแล้ว เรื่องของการใช้เครื่องสำอางบางชนิด การทานยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด รวมไปถึงฮอร์โมนและกรรมพันธุ์ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นกัน (ถ้าสาเหตุการเกิดฝ้ามาจากกรรมพันธุ์ โอกาสฝ้าจะกลับมาเกิดซ้ำจะมีสูงมาก และปริมาณอาจเท่าเดิมหรือลดลงกว่าเดิมเล็กน้อย)
ดังนั้น หากคุณเลิกใช้ครีมรักษาฝ้าหลังจากที่ฝ้าจางหายแล้ว ก็มีโอกาสที่ฝ้าจะกลับมาได้อยู่ดี เพราะคุณยังต้องเจอกับแสงแดด เคมีจากเครื่องเครื่องสำอาง ยาคุม หรือฮอร์โมนแปรเปลี่ยน ก็ทำให้หน้ากลับมาเป็นฝ้าได้ดังเดิม
วิธีรักษาฝ้าไม่ให้กลับมาดำ
1. ทาครีมรักษาฝ้า
ถึงฝ้าจะจางลงแล้ว ก็ไม่ควรหยุดครีมรักษาฝ้า เพราะครีมรักษาฝ้าจะช่วยป้องกัน และรักษาฝ้าให้บรรเทาลงเรื่อยๆ (ถึงแม้คุณจะเลิกใช้ครีมรักษาฝ้า หันไปใช้เลเซอร์รักษาฝ้าแทน ก็มีโอกาสที่ฝ้ากลับมาอยู่ดี) ทางที่ดีควรทาครีมรักษาฝ้า ที่สารสกัดจากสมุนไพรเพื่อความปลอดภัยต่อผิวหน้าของคุณ
2. ทาครีมกันแดด
ครีมกันแดด สำคัญมากๆ! ห้ามลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาด! ไม่ว่าคุณจะอยู่แต่ในบ้าน หรืออยู่กลางแจ้ง ก็ต้องทาครีมกันแดด โดยเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 PA+++ ขึ้นไป เพื่อประสิทธิภาพในการกันแดดที่ดี ควรทาก่อน 15 นาที เมื่อต้องออกแดด และทาซ้ำ ทุกๆ 2 ชั่วโมง หากต้องเจอแสงแดดเป็นเวลานานๆ
3. ดูแลภายใน
นอกจากการทายา ทำทรีทเม้นท์ รวมไปถึงการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ ในระหว่างการรักษาเราสามารถดูแลตัวเองจากภายในได้โดยการรับประทานทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ฝ้าขยายตัวใหญ่ขึ้นนั่นเอง
4. รักษาฝ้าด้วยสมุนไพร
การรักษาฝ้าด้วยสมุนไพรเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้ผิวหน้าดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการเพิ่มอาหารผิว ทำให้หน้าใสเด้ง เนียนนุ่ม ไร้รอยฝ้า กระ และริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย
• สูตรใบบัวบกรักษาฝ้า
สมุนไพรรักษาฝ้าอีกสูตร ซึ่งจากการวิจัยพบว่าใบบัวบกนั้นมีสรรพคุณในการช่วยรักษาอาการของโรคผิวหนังได้ โดยเฉพาะฝ้า กระ และสิว วิธีใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่นำมาปั่นแล้วใช้น้ำใบบัวบกมาเช็ดหน้าแทนการใช้โทนเนอร์ก่อนนอนทุกวัน เพียงเท่านี้รอยฝ้าต่าง ๆ ก็จะค่อย ๆ จางลง เหลือไว้แต่เพียงหน้าอันขาวเนียนสดใส
• สูตรหัวไชเท้ารักษาฝ้า
สูตรรักษาฝ้าด้วยหัวไชเท้า คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำหัวไชเท้าบดหยาบ ๆ มาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที (แล้วแต่สภาพหน้าของแต่ละคนว่ารับได้แค่ไหน ส่วนคนที่มีผิวแพ้ง่ายไม่ควรใช้สูตรนี้) แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ให้คุณทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง หรือวันเว้นวัน ก็จะช่วยลดฝ้าทำให้ฝ้าดูจางลงได้มากเลยทีเดียว
• สูตรมะขามเปียก
อีกหนึ่งวิธีรักษาฝ้าด้วยสมุนไพร ให้คุณนำเนื้อมะขามเปียกมาพอกหรือทาบาง ๆ บริเวณผิวที่เป็นรอยฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที แล้วล้างออก วิธีนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าทำให้รอยฝ้าดูจางลงและยังช่วยลดรอยด่างดำได้ด้วย
5. ดื่มน้ำมากๆ
การดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยให้ร่างกายได้ขับของเสียสารพิษ ทำให้ผิวพรรณสดใส ไร้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และสิว ริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
6. ทานอาหารดีๆ
ฝ้า สามารถเกิดขึ้นได้จากการที่คุณขาดสารอาหาร การเลือกทานอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกทานอาหารที่มีวิตามิน แร่ธาตุ อย่างการทานผัก ผลไม้หลากสี และการทานเนื้อปลา ตับ เนื้อสัตว์ต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการทานแป้ง น้ำตาล คาเฟอีน ลดการสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล ก็จะช่วยให้รอยฝ้าบรรเทาลง
ยังไงก็ตาม หากคุณอยากหยุดทาครีมรักษาฝ้า เราขอแนะนำให้คุณดูแลตัวเองให้ดี ทั้งภายนอก และภายใน หลีกเลี่ยงความเครียด หลบแดด และทานอาหารดีๆ พร้อมดื่มน้ำมากๆ ถึงรอยฝ้าจะไม่จางหายไปทั้งหมด แต่ก็ช่วยให้รอยฝ้าบรรเทาลงได้ดีเลยค่ะ