ฝ้า เป็นปัญหาที่สร้างความกลุ้มใจให้สาวๆ เพราะรอยคล้ำที่ขึ้นตามที่ต่างๆของใบหน้า จนทำให้เสียความมั่นใจ มาลองรักษาฝ้าด้วย 2 วิธีง่ายๆ ดังนี้..
2 วิธีป้องกันฝ้า ด้วยตัวเอง
วิธีที่ 1 : ป้องกันฝ้า
1.) ป้องกันแสงแดด
• เพราะแสงแดด จะปล่อยรังสี UVA/UVB ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าได้ จึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ และเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF อย่างน้อย 30 พร้อมมี PA++++ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกันแดด พร้อมช่วยป้องกันการเกิดฝ้าได้ดี
• หากต้องตากแดดเป็นเวลานาน ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF50 PA++++ พร้อมทั้งทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
• ควรเลี่ยงแสงแดดเวลา 10.00 น. – 16.00 น. เพราะแสงแดดเวลานี้ทั้งแรง และทำร้ายผิวได้ลึกถึงเซลล์ผิว เสี่ยงการเกิดฝ้า และมะเร็งผิวหนัง
• ควรสวมหมวกปีกกว้าง ใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด แต่เบาสบาย ไม่แน่น หรืออับเกินไป
2.) ป้องกันเคมีจากเครื่องสำอาง
• เครื่องสำอางบางชนิดที่มี แอลกอฮอล น้ำหอม สารกันเสีย หรือมีฮอร์โมน ก็จะทำให้ผิวหน้าไวต่อแสงแดด และเกิดฝ้าได้ ดังนั้นคุณจึงควรหลีกเลี่ยงสารเคมีเหล่านี้ เพื่อป้องกันการเกิดฝ้า
วิธีที่ 2 : รักษาฝ้า
1.) ทำความสะอาดใบหน้า
• ใน 1 วัน ผิวหน้าคุณต้องเจอกับแสงแดด ฝุ่น ควัน แบคทีเรีย และสารเคมีมากมาย อาจส่งผลให้ผิวหน้าเกิดฝ้าได้ คุณจึงควรทำความสะอาดใบหน้าเป็นประจำ
• ควรทำความสะอาดใบหน้าเพียงวันละ 2 เวล เช้า-เย็น(ก่อนนอน)
• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้า เมื่อใช้แล้วหน้าไม่แห้งตึงหลังล้างหน้า
2.) บำรุงผิวหน้า
• ใช้ครีมบำรุง หรือครีมรักษาฝ้า ที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยลดรอยดำ อย่างครีมที่สารสกัดรากปอสา หัวไชเท้า มะหาด หรือสารสกัดจากใบบัวบก ก็จะช่วยเข้าไปกระตุ้นเซลล์ผิว ยับยั้งการเกิดเมลานิน หรือรอยฝ้า พร้อมทั้งทำให้ผิวแข็งแรง กระจ่างใส ลดเลือนรอยฝ้าได้ดี
• ไม่ควรใช้ครีมเคมีตามเนตที่เป็นสีแรงๆ หรือครีมที่มีส่วนผสมของสารปรอท ไฮโดรคิวโนน เพราะเคมีเหล่านี้อาจเกิดผลเสียที่มากกว่าหน้าพัง ฝ้าฝังลึก!
3.) พอกหน้ารักษาฝ้า
• เลือกใช้สมุนไพรรักษาฝ้าตามที่ชอบ เช่น มะนาว มะละกอ มะขามเปียก หัวไชเท้า ว่านหางจระเข้ หรือใบบัวบก เพื่อช่วยลดเลือนฝ้าอย่างอ่อนโยน และไม่เป็นอันตรายต่อผิวหน้าฃ
4.) ทานอาหารต้านฝ้า
• ควรรับประทานผลไม้ เช่น มะขามป้อม ส้ม มะนาวที่มีวิตามินซีสูง ช่วยให้ผิวขาวใสและเสริมการรักษาฝ้าได้ หรือรับประทานถั่วเหลือง ชาเขียว มะเขือเทศหรืออาหารเสริม เช่น กลูตาไทโอน และวิตามินซีที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด
• ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8-10 แก้ว รือวันละ 2 ลิตร เพื่อช่วยชำระล้างสารพิษ ลดการเกิดฝ้า
5.) ออกกำลังกาย
• การออกกำลังกายเบาๆ วัลนะ 30 นาที นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรง เลือดสูบฉีดดีขึ้น รอยฝ้าก็จะค่อยๆจางลง
หากคุณทำตาม 2 ขั้นตอน ทั้งการป้องกัน และการรักษาเหล่านี้ได้ทุกวันอย่างสม่ำเสมอ รอยฝ้าของคุณก็จะค่อยๆจางลงได้เป็นอย่างดี และอย่าลืมเลือกใช้ชุดผลิตภัณฑ์รักษาฝ้า ของ Herb&Her ที่มีสารสกัดจากสมุนไพรนานาชนิด ช่วยลดรอยฝ้าอย่างเห็นผล ไม่ทำให้หน้าบาง แพ้ แสบ แดง แน่นอน!